เมื่อวันก่อนจู่ๆฉันก็นึกตำหนิตัวเองขึ้นมาอย่างแรง
สาเหตุน่ะเหรอ ฉันรู้สึกว่าช่วงนี้ตัวเเองห่างเหินจากธรรมะไปมาก สติหลุดหายไปกู่ไม่กลับ ไอ้นิสัยไม่ดีเก่าๆมันเริ่มกลับมาอีกแล้ว พอรู้ตัวอีกทีเลยรู้สึกตกใจว่านี่เราหลุดขนาดนี้เลยหรือ
มิน่าคนถึงพูดกันว่านิสัย สันดานเนี่ยมันเปลี่ยนยากจริงๆ ต้องใช้ความตั้งมั่นอย่างมากถึงจะจะเปลี่ยนมันได้
ตั้งแต่ต้นปีมานี้ฉันตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงนิสัยไม่ดีหลายๆอย่างในตัว อันได้แก่เรื่องต่อไปนี้
- ฉันเป็นคนอีโก้สูง เชื่อมั่นในตัวเอง ไม่ยอมรับความคิดคนอื่น ทนเสียงวิจารณ์ไม่ค่อยได้ หัวแข็งอีกต่างหาก
- เพอเฟคชั่นนิส ชอบตำหนิคนอื่น
- เกลียดการถูกเอาเปรียบที่สุด บางครั้งก็ให้อภัยคนยาก
- ไม่ยืดหยุ่น ถ้าวางแผนทำอะไรแล้วไม่เป็นไปตามนั้นจะหงุดหงิดมาก
- ใจร้อน อยากได้อะไรต้องเดี๋ยวนั้น ต้องรู้ดี๋ยวนั้น
- คิดมาก โลเล ขี้เกียจ
- ฟุ้งซ่าน กังวลกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ชอบคิดไปเองก่อน พอไม่เป็นอย่างที่คิดก็จะเสียใจ ผิดหวัง เศร้า
- แคร์คนอื่นมากเกินไป ขี้น้อยใจ บางครั้งก็ขี้เกรงใจจนไม่กล้าพูดความจริง
ฉันว่าวิธีการแก้นิสัยที่กล่าวมาทั้งหมด อยู่ที่การปล่อยวาง อย่ายึดติดว่าเป็นตัวเราของเรา
ถ้าฉันสามารถระลึกได้ตลอด ว่าไอ้ตัวเราและสิ่งรอบๆตัวเราเนี่ย มันเป็นสิ่งสมมติขึ้นทั้งนั้น ฉันก็จะคลายความยึดติดต่อสิ่งต่างๆไปได้ และฉันก็จะสามารถขจัดนิสัยที่ไม่ดีที่ทำให้ฉันเป็นทุกข์เหล่านี้ออกไปได้
ส่วนเรื่องสติเนี่ย ฉันคงต้องฝึกจากการนั่นสมาธิ แต่พอคิดจะเริ่มทีไรก็ขี้เกียจขึ้นมาซะงั้น มักจะหาข้ออ้างร้อยแปดที่จะไม่ทำมัน
เพราะเหตุนี้ ฉันจึงรู้สึกสมเพชตัวเองว่า เรานี่มันก็แค่ปุถุชนคนธรรมดาคนนึง ที่เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้าย เอาแน่เอานอนไม่ได้
ที่ฉันอยากเปลี่ยนนิสัย คงเป็นเพราะหลังจากไปพบหมอพีร์เมื่อเกือบ 1 ปีมาแล้ว เขาบอกฉันว่าถ้าฉันสามารถเปลี่ยนตัวเองได้ ฉันก็จะสามารถทำชีวิตให้ดีกว่าที่เป็นอยู่นี้
ฉันอยากจะลองพิสูจน์นะว่าถ้าฉันเปลี่ยนตัวเองได้จริง จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
นี่ยังไม่ทันจะครบปี ทำท่าจะกลับไปเป็นแบบเก่าอีกแล้ว นี่ฉันคงต้องเรียกสติกลับมาอีกรอบ เรียกความตั้งใจเดิมกลับมาอีกที
เอาวะ เริ่มต้นใหม่อีกที สิบปียังไม่สาย