Thursday, January 24, 2008

แด่ ฮีท เลดเจอร์

หลับให้สบายนะคุณฮีท

ในชีวิตฉัน พูดได้เลยว่าชอบดาราอยู่ไม่กี่คนหรอก ฉันเองก็ไม่ได้ชอบคนที่หน้าตาสักเท่าไร ส่วนใหญ่ดาราที่ชอบจะเป็นพวกมากความสามารถ เล่นบทเจ๋งๆได้กินใจ

ฉันรู้จักพ่อหนุมคนนี้จากหนังเรื่อง 10 Things I hate about you ตอนนั้นแค่สะดุดตาว่าอืม ดูเป็นพระเอกที่หน้าตาธรรมดา แต่ดูซื่อๆ ไม่กะล่อน และเซอร์ดี

หลังจากนั้นฉันก็ได้ดูผลงานเขาอีกหลายเรื่อง แต่ก็ไม่ได้ประทับใจเรื่องไหนเป็นพิเศษ

จนมาถึง Brokeback Mountain นี่แหละ เป็นเรื่องที่ทำให้ฉันชอบพ่อหนุ่มคนนี้ขึ้นมาจริงๆ

ปกติฉันไม่ชอบหนังเกย์เท่าไรนะ เพราะชอบนำเสนอแต่ด้านดิบๆ แต่เรื่องนี้ขอไว้เลย ฉันอยากเรียกมันว่าหนังรักมากกว่าหนังเกย์นะ เพราะเป็นหนังที่แสดงให้เห็นถึงความสวยงามของความรัก แม้ว่าจะเป็นชายกับชายก็ตาม

ที่ฉันชอบฮีทจากเรื่องนี้เพราะฉันว่าเขาเจ๋งที่กล้าแสดงบทนี้ นี่มันไม่ใช่บทที่คนธรรมดาจะกล้าเล่นนะ แถมมีเลิฟซีนกับผู้ชายด้วย แต่เขาก็เล่นได้อย่างมืออาชีพมาก ฉันว่าดาราคนนี้อนาคตไกลทีเดียว

สุกท้ายก็ไปได้ไกลแค่เท่านี้จริงๆ

ฮีท เลดเจอร์ถูกพบว่าเสียชีวิตในอพาตเมนต์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะอายุได้ 28 ปี

การตายของเขาช็อคฉันมาก ตกใจยิ่งกว่าตอนได้ยินว่านางเบเนเซียร์ บุตโตตายซะอีก

ไปซะแล้ว ดาราโปรดของฉันอีกคน

นี่ถ้าพี่ Hugh เป็นอะไรไป ฉันคงเซ็งชีวิตมากกว่าเดิม คงไม่เหลือใครให้ชอบซะแล้วล่ะ

Rest in Peace ...

Sunday, January 20, 2008

ฉันกับงานแต่งงาน (ของคนอื่น)

ถ่ายตอนที่แขกยังไม่มา ชอบสีดอกไม้มากๆ

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็ถึงวันแต่งงานของเพื่อนที่ทำงานฉันเอง งานนี้ฉันอาสาทำ MV ประกอบงานให้ ฉันไม่เคยทำมิวสิควีดีโอมาก่อน แต่ว่าอารมณ์อยากลองน่ะ ระหว่างที่ทำอยู่จู่ๆอุปสรรคที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ซึ่งเกือบทำให้โปรเจ็คนี้ล่มไปแล้ว ก็ตอนที่คอมฉันเจ๊งไงล่ะ โชคดีที่สามารถกู้ข้อมูลกลับมาได้ ทำให้โปรเจ็คได้กลับฟื้นคืนชีพอีกครั้งและให้โอกาสฉันทำต่อจนเสร็จ เหมือนตายแล้วฟื้นยังไงอย่างงั้นเลย

งานนี้นอกจากฉันจะทำ MV ให้แล้ว ฉันก็ยังรับอาสาช่วยงานจิปาถะอื่นๆเท่าที่จะทำได้

ในวันงานฉันได้รับการไหว้วานให้ดูแลความเรียบร้อยของอุปกรณ์เครื่องเสียงและโปรเจ็คเตอร์ ทำให้ฉันนึกย้อนไปถึงตอนที่ทำงานบายเนียร์ตอนปีสามอะไรอย่างนั้น

ฉันมาถึงประมาณเร็วกว่าคนอื่นๆเขา ฉันถึงที่โรงแรมเวลา 4.45 ตอนนั้นมีแต่ญาติๆของเขาที่มาถึง ฉันจัดแจงคุยกับเจ้าหน้าที่โรงแรมเรื่องไฟ และคิวงาน เจ้าหน้าที่ดูเป็นการเป็นงานดีอยู่แล้ว ฉันเลยไม่ค่อยห่วงเท่าไร พอหกโมงเพื่อนๆก็เริ่มทยอยมา ฉันก็มัวแต่ถ่ายรูปกับหาอะไรรองท้อง เพราะไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เที่ยง พอใกล้พิธีเริ่มฉันก็ไปแสตนด์บายใกล้กับเวที

เพื่อนฉันที่เป็นเจ้าสาวดูจะกังวลกับพิธีการมาก ฉันเองแม้ไม่ใช่คนแต่งยังกังวลเหมือนกัน แอบคิดว่าไม่รู้งานจะราบรื่นรึเปล่า จะหลุดคิวมั้ย จะมีอะไรเจ๊งกลางทางรึเปล่า สุดท้ายฉันก็เลยปลงว่าอะไรจะเกิดก็คงต้องเกิดนะ มีอะไรเราก็แก้ไขไปเฉพาะหน้าละกัน

โชคดีที่ทุกอย่างราบรื่นดี แฮปปี้กันดีทุกฝ่าย ฉันเลยโล่งใจ

ว่าแต่มิวสิควีดีโอของฉันถูกฉายเป็นอันสุดท้าย ฉันแอบคิดว่าคนดูจะชอบมันรึเปล่านะ ที่จริงฉันดูมันเป็นร้อยรอบแล้ว จำทุกช็อตได้ขึ้นใจ แต่รอบนี้ดูจะเป็นรอบที่ฉันตื่นเต้นที่สุด

อืม ได้ยินเสียงฮือๆเป็นระยะๆ บางทีก็มีเสียงหัวเราะ พร้อมกับบอกว่า "แหม ทำไปได้..."

พอฉายจบ ฉันก็โล่งใจ รู้สึกว่าได้ทำหน้าที่ของตัวเองสมบูรณ์แล้ว

พอจบงานฉันออกไปหาเพื่อนๆอีกครั้ง พอได้ยินว่าทุกคนชอบ ฉันก็ดีใจ

นี่แหละ เขาถึงว่ากันว่าคำชมทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง จริงแฮะ