Monday, April 16, 2012

ประสบการณ์แปลกกับการปล่อยปลา

วันหยุดยาวสงกรานต์ปีนี้ตั้งใจจะใช้เวลาที่มีอยู่จัดห้องของตัวเองให้ดูดีขึ้น เก็บหนังสือที่ยังคงอยูในลังมาเข้าตู้ให้เรียบร้อย ปรากฏว่าเจอหนังสือที่ยังไม่ได้อ่านเยอะมาก สมควรงดการจับจ่ายหนังสือเยอะๆโดยไม่จำเป็น แต่พอเห็นหนังสือดีๆทีไรก็อดไม่ได้ทุกที พอจัดเสร็จก็ให้รางวัลตัวเองด้วยการนั่งอ่านอกาธา คริสตี้ที่เพิ่งซื้อมาสี่เล่ม หนังสือนิยายของอกาธาเนี่ยปกติจะอ่านรวดเดียวจบตลอด นอกเสียจากว่าเล่มจะหนามากๆก็จะแบ่งเป็นสองวัน ยอมรับเลยว่าแต่งหนังสือออกมาแต่ละตอนนี่วางไม่ลงจริงๆ วันอาทิตย์กอล์ฟชวนไปทำบุญปล่อยปลา ก็ไปที่ท่าน้ำนนท์กัน ตั้งใจไปปล่อยที่นั่น เราเดินกันไปซื้อปลาที่ตลาด ได้ปลาช่อน ปลาหมอ และปลาไหล เดินออกมาแวะซื้อผลไม้ คุณลุงขายผลไม้บอกว่าอย่าไปปล่อยที่ท่าน้ำเลย ให้ไปที่วัดกลาง บางซื่อแทน อยู่ไม่ไกลจากท่าน้ำนนท์เท่าไร เราก็ไปกัน คลำหาทางสักพักก็เจอ วัดนี้มีคลองสำหรับปล่อยปลา เห็นมีคนมาปล่อยปลาเรื่อยๆ พอมาถึงคลองเราก็ปล่อยปลาใหญ่ก่อน เพราะสงสารมัน เห็นมันดิ้นแรงมาก ถุงก็รั่วอีก พอแกะถุงได้ก็ภาวนาขอให้ยังว่ายไปได้ทุกตัวเถอะ พอลงน้ำมันก็ค่อยๆว่ายออกไป เราก็มาแกะปลาหมอกับปลาไหลต่อ จัดการค่อยๆปล่อยมันลงน้ำไป ขณะกอล์ฟกำลังอธิษฐาน เราเห็นปลาช่อนตัวใหญ่ที่เพิ่งปล่อยไป มันว่ายกลับมาใกล้มาก มองเห็นแผลเต็มตัว เราก็ตกใจ มองปลาตัวนี้ พร้อมกับคิดว่ามันมาเพราะมันว่ายไปไม่ไหวรึเปล่า ในใจคิดว่าขอให้มันมีชีวิตรอดอยู่ได้เถอะ มันว่ายไปแล้วก็วกกลับมาอีก ทีนี้มีคนอื่นลงมาปล่อยปลา พอเห็นมันลอยใกล้ๆ ก็จับมัน มันก็ว่ายผลุบหายไป ตอนแรกคิดว่าเค้าจะจับมันจริงๆ เตรียมสู้เต็มที่ ปรากฏว่าเค้าหันมาพูดว่าจับมัน มันจะได้ว่ายลงไปลึกๆ อ้อ ถ้าอย่างนั้นก็โอเค กลับมาบ้านก็รู้สึกดีนะ ตลกดีที่ว่าถ้ากอล์ฟไม่ได้หยุดที่ร้านผลไม้ก่อน เราก็คงเอาปลาทั้งหลายไปปล่อยที่ท่าน้ำนนท์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าชะตาของปลาจะเป็นอย่างไร ส่วนเราก็ยังคงนึกถึงปลาตัวนั้นอยู่ เป็นประสบการณ์ที่แปลกดี กอล์ฟบอกว่า มันกลับมาขอบคุณรึเปล่า อันนี้เราก็ไม่อาจรู้ได้ เอาเป็นว่าถ้าบุญมีจริงก็ขอให้มันมีชีวิตอยู่ได้ต่อไปละกัน

Friday, March 23, 2012

Welcome 2012 คนเปลี่ยน...แต่บล๊อกยังอยู่

หายไปอีกแล้วกว่าหนึ่งปี รู้สึกแย่จริงๆที่ไม่ได้เขียนอะไรอย่างต่อเนื่อง สงสัยเป็นไปได้ว่าตั้งแต่ซื้อไอแพดตอนเดือนสิงหา ชีวิตก็เปลี่ยนไป ยอมรับเลยว่าหมกมุ่นกับ facebook และเล่นinternetมากกว่าช่วงก่อน แถมยังติดเกมส์ในไอแพดอีก ด้วยความที่มันเบา พกพาสะดวก เลยทำให้ชีวิตผูกติดกับมันไปเลย

แต่จะว่าไปชีวิตเมื่อปีที่แล้วก็ไม่ได้มีอะไรหวือหวา หนักๆก็ยังคงเป็นเรื่องงานที่เยอะขึ้นเรื่อยๆ แถมยังต้องมาทำงานนอก เป็นหัวหน้าชมรมคลับภาษาเยอรมันอีก

แต่พูดไป ปีที่แล้วก็มีเรื่องที่ต้องสูญเสียสองอย่าง อย่างแรกคือการที่นวลกลับบ้านไปแล้ว ไม่มาอีกเลย (ตอนหลังได้โทรคุยกันถึงรู้ว่านวลไปแต่งานกับเด็กอายุ 25! ) อย่างที่สองคือการสูญเสียโซ้วโกวอย่างกระทันหัน ด้วยเส้นเลือดในสมองแตก โซ้ยโกวอยู่รพ.ประมาณสองเดือนก็เสีย ทำให้เรารู้สึกเลยว่าชีวิตคนนี่มันไม่แน่นอนจริงๆ

ปีๆนึงมันผ่านไปเร็วมาก ปีนี้ ปี 2012 แล้ว เป็นปีที่เค้าว่ากันว่าโลกจะแตก เป็นปีที่เราอายุ 33 เป็นปีที่เราทำงานกับบริษัท7 ปี นานจริงๆ

การมานั่งอ่านโพสแรกตั้งแต่ปี 2007 ทำให้รู้สึกว่าชีวิตเราแต่ละช่วงเวลาก็มีเรื่องราว อารมณ์ อะไรไม่เหมือนกันเลย บางอย่างก็รู้สึกว่าความคิดความอ่านของเราเปลี่ยนไป ก็แน่ล่ะ คนเรามัวต้องโตขึ้นเรื่อยๆอยู่แล้วล่ะ

ตลกดี ย้อนกลับไปอ่านโพสตอนไปบริจาคเลือดครั้งที่สอง ในขณะที่วันนี้ เราไปบริจาคเลือดเป็นครั้งที่17 แล้ว ดูสิว่าเวลามันผ่านไปยาวนานแค่ไหนแล้ว