ปีนี้ฉันนั่งนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่อย่างปกติที่บ้านที่กรุงเทพ
ย้อนกลับไปสามปีติดกัน ฉันไม่ได้อยู่ที่บ้านฉลองปีใหม่ซักปีเลย ปีที่แล้วฉันไปปฎิบัติธรรมที่ชลบุรี สองปีที่แล้วฉันอยู่กับเพื่อนที่เชียงใหม่ สามปีที่แล้วฉันอยู่ที่เมืองคาสเซิล เยอรมนี นั่งติดตามข่าวสึนามิอย่างตื่นเต้น
ที่จริงฉันไม่ได้เป็นคนประเภทตื่นเต้นกับเทศกาลอะไรเท่าไร สำหรับฉันมันก็แค่อีกหนึ่งวันผ่านไปเท่านั้น บางคนใช้ปีใหม่เป็นเครื่องกระตุ้นที่จะเริ่มต้นทำอะไรซักอย่าง สำหรับฉันแล้ว ถ้าอยากจะเริ่มทำอะไร ไม่ต้องรอให้ถึงปีใหม่หรอก อยากเริ่มก็เริ่มเลย เดี๋ยวไม่ทันการ
ฉันยอบรับว่าปีนี้ในความรู้สึกของฉันผ่านไปค่อนข้างเร็วนะเนี่ย ไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดี บางครั้งฉันแทบจำไม่ได้ว่ามีอะไรผ่านไปบ้างในแต่ละเดือน รู้สึกเดี๋ยวนี้จะเป็นคนไม่ค่อยอยากจำอะไรเท่าไร ยังดีที่ยังพอหาอ่านจากบล็อกที่ตัวเองเคยเขียนไว้
ฉันว่าหลักๆคือปีนี้ฉันค่อนข้างจะเหนื่อยเรื่องงานเอามากทีเดียว ยังดีที่ไม่มีเรื่องอื่นมากรบกวนจิตใจอีก ฉันว่าคงเป็นเพราะยังรู้สึกว่าตัวเราเองยังจะเอาตัวไม่รอดเลย ขืนเอาเรื่องคนอื่นมาคิดให้รกสมองยิ่งจะทำให้แย่ลงอีก ปัญหาที่ผ่านมาฉันดีใจนะที่ตัวเองสามารถตัดใจได้ทันที รวมทั้งมองอะไรอย่างระมัดระวังมากขึ้น
เรื่องที่ทำฉันลืมไม่ลงในปีนี้คงเป็นเรื่องที่ได้รู้จักกับน้องคนนึง เป็นเรื่องที่บังเอิญสุดๆ ที่จริงมันอาจมีเหตุปัจจัยอะไรที่ทำให้เราได้เจอกัน เพียงแต่เป็นเหตุผลที่ฉันหาคำอธิบายไม่ได้ก็เท่านั้น ฉันรู้แต่ว่าการได้เจอกันเป็นผลดีสำหรับฉัน เพราะทำให้ฉันสามารถจัดการกับปัญหาได้อย่างเด็ดขาด
การได้มีโอกาสไปทำบุญในหลายๆที่ หลายๆโอกาส เช่น วัดป่าอัมพวัน วัดพระบาทน้ำพุ บ้านพักคนชรา รวมถึงโครงการที่สังขละบุรี ถือเป็นเรื่องดีในปีนี้ รวมถึงการไปบริจาคเลือดสามครั้งในปีนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดีในปีนี้
ชีวิตช่วงครึ่งปีหลังหมดไปกับการหมกมุ่นเรื่องเอเอฟ ตอนแรกฉันไม่คิดที่จะดูเลยนะ เพราะไม่ประทับใจตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว แต่นี่เพราะน้องแจ๊คคนเดียวเลยนะเนี่ย ทำให้ฉันถ่อไปดูคอนเสิร์ทถึงเมืองทองธานีสองอาทิตย์ติด รวมถึงคอนเสิร์ทสุดท้ายที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก ลามไปถึงมินิคอนเสิร์ทอีกสองครั้ง แต่ฉันสังเกตได้ว่าความรู้สึกของฉันมันเริ่มซาๆแล้วล่ะ เห็นได้จากมินิคอนเสิร์ทล่าสุดที่ไปดูฉันไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไร เทียบกับตอนแรกๆที่สนใจ ตอนนั้นติดตามข่าวตลอดเวลา นั่งโหลดคลิปสารพัด เซฟรูปเพียบ ตอนนี้เฉยๆแล้ว จิตใจนเรานี่มันเปลี่ยนง่ายจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนแบบฉัน
ที่จริงฉันว่าการสนใจเอเอฟมันก็มีข้อดีอย่างนึงนะ คือมันทำให้ฉันหายเครียด และก็ได้มีเรื่องคุยกับน้องๆที่ทำงานมากขึ้น รวมถึงการไปดูคอนเสิร์ทร่วมกัน นานๆทีที่จะมีโอกาสได้ทำอะไรบ้าๆแบบนี้นะ
ช่วงใกล้สิ้นปีเป็นช่วงเหนื่อยที่สุด ไม่อยากจะนึกย้อนกลับไปจริงๆ ถ้าลองกลับไปอ่านข้อเขียนช่วงนั้นคงจะเข้าใจความรู้สึกได้ดีกว่า
ปีใหม่ที่จะถึงนี้ ก็ไม่มีอะไรพิเศษ เป็นที่ฉันจะอายุ 29 แล้ว มีเลขสองนำหน้าเป็นปีสุดท้าย(แล้วไงล่ะ) ทำงานจะครบสามปี บ้านใหม่ก็คงเสร็จสักกลางๆปี หวังเช่นนั้นนะ อยากเข้าไปอยู่เต็มแก่แล้ว
ปีหน้าฉันมีแพลนที่จะไปเที่ยวต่างประเทศสักที่ แต่ยังไม่แน่นอน คิดว่าคงเป็นประเทศในยุโรปซักที่ ฉันหวังว่าปีหน้าฉันคงเหนื่อยน้อยลง และก็มีโอกาสที่ดีเข้ามาในชีวิตบ้าง โอกาสที่ทำให้ฉันได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ได้รู้สักทีว่าที่จริงแล้วเราอยากทำอะไรกันแน่