ช่วงเดือนที่ผ่านมายอมรับเลยว่าเป็นช่วงยากลำบากของชีวิตเลยทีเดียว เพราะรู้สึกมีเรื่องอะไรเข้ามาเยอะแยะเต็มไปหมด ซึ่งก็ล้วนเป็นแต่เรื่องที่ทำให้ท้อแท้หดหู่ใจพอสมควร ตัวอย่างก็เช่นคอมพิวเตอร์ที่ใช้มาได้สองปีกว่าๆก็เกิดพังลงอย่างไม่คาดฝัน ไม่มีปี่มีขลุ่ย มันทำให้ฉันจิตตกไปเลยเพราะว่าโปรเจ็คสำคัญที่กำลังทำอยู่ทั้งหมดอยู่ในนั้น แล้วที่สำคัญคือฉันก็ไม่เคย back up ข้อมูลอะไรไว้เลย หลังจากเอาคอมไปซ่อม เสียเงินเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ใหม่ ฉันยังต้องเอาฮาร์ดดิสก์ตัวเก่าไปกู้ข้อมูลคืน ซึ่งก็โชคดีที่ว่าเพื่อนเจ้าของโปรเจ็คมีคุณอาซึ่งเก่งคอมพิวเตอร์ ทำให้ช่วยกู้วิกฤตชีวิตได้ไปหนึ่งเรื่อง
เรื่องต่อมาคืองานที่แสนจะหนักหนาเพราะเป็นเดือนที่ฉันต้องทำโบนัสจ่ายพนักงานกว่าสองพันคน ทำถูกบ้างผิดบ้าง เวลาก็น้อยเหลือเกิน ทำฉันเครียดไปเลย ฉันคิดว่าเรื่องงานเนี่ยคงจะยุ่งไปจนถึงเดือนหน้าเลยล่ะ กว่าจะดีขึ้น
นอกนั้นก็เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เข้ามากระทบ พอมันเข้ามาบ่อยๆ ก็ทำให้ฉันรู้สึกหดหู่ไปได้เหมือนกัน นี่ขนาดคิดว่าตัวเราเองก็ผ่านอะไรมาพอสมควร คิดว่าเข้มแข็งกว่าแต่ก่อนนะ แต่ก็ยังไม่วายเสียสูญไปเหมือนกัน
อย่างว่าแหละ มันเป็นธรรมดาของชีวิตจริงๆ ที่มีขึ้นมีลง เดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์ สลับไปเรื่อยๆ
เวลาทุกข์ ฉันก็ไม่วายคิดย้อนไปถึงตอนสมัยอยู่เยอรมนี ทำไมตอนนั้นก็เรียนหนักนะ มีปัญหาเข้ามาบ้าง แต่ไม่เคยรู้สึกอะไรแย่แบบนี้เลย ตอนนั้นรู้สึกว่าอยู่กับตัวเองได้ดี แทบไม่เคยมีความรู้สึกเบื่อหรือหดหู่กับชีวิต ช่างต่างจากตอนนี้โดยสิ้นเชิง ฉันอยากมีความรู้สึกแบบช่วงนั้นอีกนะ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน
การนึกถึงช่วงเวลาที่เรามีความสุข ทำให้อย่างน้อยเราก็ลืมความทุกข์ในปัจจุบันไปได้บ้าง ช่วงเวลาตอนนั้น ฉันเองอยากจะเก็บความรู้สึกอย่างนั้นไว้นานๆ แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้หรอก อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป อดีตก็คืออดีต
เอาเถอะ ยังไงฉันก็เชื่อว่าปัญหาและอุปสรรคทำให้คนเราแข็งแกร่งขึ้น และที่สำคัญคือคนเรามันคงไม่ดวงตกตลอดไปหรอก จริงมั้ย