Wednesday, August 22, 2007

ว่าด้วยปรัชญาชีวิต

ไม่รู้ทำไมนะ ฉันถึงชอบมองท้องฟ้าสีฟ้า มันทำให้ใจมันสงบสบายบอกไม่ถูกจริงๆ

ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาฉันค่อนข้างเหนื่อยกับงานจริงๆ เป็นเพราะถึงช่วงที่งานยุ่งบวกกับมีออดิตมาตรวจที่แผนกอีกด้วย ทำฉันจิตตกไปพักใหญ่ทีเดียว

พูดถึงงานแล้ว บางวันฉันก็รู้สึกสนุกกับมันนะ แต่บางวันฉันก็รู้สึกเบื่อๆเซ็งๆกับมัน จริงอย่างที่เขาว่า ไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิตจริงๆ ทุกสิ่งมันเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

ง่ายๆเลย แค่ใจเรานี่แหละ ดูง่ายที่สุด เดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์สลับกันไปเรื่อยๆ บางครั้งมันเปลี่ยนรวดเร็วมากจนไม่ทันสังเกตเลยทีเดียว อะไรที่เคยชอบ ตอนนี้กลับไม่ชอบ อะไรที่เคยไม่ชอบ ไปๆมาๆก็ยอมรับได้ไปเอง ประมาณนี้แหละ

ณ ตอนนี้ฉันพยายามที่จะยอมรับในความจริงข้อนี้ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้ปล่อยวางอะไรได้ง่ายขึ้น
อืม ฟังดูธรรมะธรรมโมสิ้นดีนะ ที่จริงฉันก็ไม่ได้แตกฉานอะไรเรื่องศาสนาเท่าไรหรอก ฉันว่าธรรมะเป็นเรื่องธรรมชาตินะ คือเป็นการทำชีวิตให้ปกติธรรมดา ยอมรับและเข้าใจในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ


แต่ก่อนเวลาทำอะไรสักอย่าง ฉันใส่ความคาดหวังลงไปมากมาย พอไม่เป็นอย่างที่หวัง ฉันก็หดหู่ ทำอะไรไม่ได้ไปหลายวันเลย

ตอนนี้ฉันเลยฝึกตัวเองไม่ให้คิดอะไรมากมาย ฉันถือว่าเราทำให้ดีที่สุดละกัน ผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็รับได้หมด

ดีที่ฉันเป็นคนที่ไม่ค่อยจำเรื่องอะไรที่ผ่านไปแล้ว ฉันถือว่าอดีตก็คืออดีต เราไปแก้ไขอะไรได้มั้ย แล้วจะมานั่งเสียใจไปทำซากอะไร แค่ถือเอาเรื่องร้ายๆเป็นบทเรียนเพื่อที่จะไม่ให้ทำพลาดอีกละกัน

อย่างที่ฉันเคยเขียนไว้ตั้งนานแล้ว ความคิดของเราคือกุญแจสู่ทุกสิ่ง คิดดี มองโลกในแง่ดี ก็สุข คิดร้าย มองโลกในแง่ร้าย ก็ทุกข์ ในเมื่อรู้แบบนี้แล้วทำไมยังจะเลือกทำให้ตัวเองเป็นทุกข์อีกล่ะ




No comments: