Friday, August 24, 2007

ตะกอนของความคิด

ภาพประกอบ: พระจันทร์ที่ขั้วโลกเหนือ (ในรูปเขาอธิบายว่างั้นน่ะ)

ช่วงนี้ฉันได้มีโอกาสคุยกับน้องชายมากขึ้น ได้ถกกันในหลายๆเรื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นแนวคิดและ ปรัชญา ฉันว่าไอ้ความช่างคิดนี้ต้องถ่ายทอดทางพันธุกรรมแน่นอนเลย เพราะพ่อฉันก็เป็นคนช่างคิดเหมือนกัน

เราทั้งคู่ชอบงาานเขียนของวินทร์ เลียววารินทร์ เพราะเขามักจะแฝงปรัชญา ความคิด หรือ คำคมเด็ดๆไว้ในงานเขียนของเขาอยู่ตลอด ฉันว่าเขาเป็นอีกคนที่มีความคิดคมมากๆ มีมุมมองและแนวทางเป็นของตนเอง บางเรื่องอาจดูเป็นความคิดที่แปลกสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับฉันแล้ว ฉันชอบคนที่มีแนวคิดใหม่ๆไม่ซ้ำใคร

ฉันมักตั้งคำถามกับตัวเองบ่อยๆเกี่ยวกับค่านิยมของสังคมหลายๆเรื่อง เช่นว่าทำไมจะต้องดำเนินชีวิตตามแบบที่คนส่วนใหญ่เขาทำกัน ทำไมต้องเชื่อในสิ่งที่คนส่วนใหญ่เขาเชื่อกัน ฉันคิดเสมอว่าแต่ละคนมีเงื่อนไขในชีวิตที่ต่างกัน สิ่งที่เหมาะกับคนนึงอาจจะไม่เหมาะกับอีกคนนึง คนบางคนถือเอาบรรทัดฐานของคนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงเงื่อนไขของตนเอง ประมาณว่าอะไรที่คนส่วนใหญ่บอกว่าถูกคือถูก ผิดคือผิด อันนี้ฉันไม่เห็นด้วยอย่างแรง

สำหรับฉันแล้วฉันจะถามตัวเองก่อนเสมอว่าสิ่งนั้นหรือสิ่งนี้มันเหมาะกับเราหรือเปล่า ฉันเชื่อว่าเราทุกคนรู้จักตัวเองดีที่สุด ถ้ามันฝืนตัวเราฉันก็ไม่ทำนะ ต่อให้คนค่อนโลกมองว่ามันถูกก็ตาม แต่สำหรับเรามันไม่ใช่นี่นา

ฉันว่าคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องไกลตัวมากกว่าเรื่องของตัวเอง ตัวอย่างเช่นผู้ชายมักจะสนใจเรื่องการเมือง วิพากวิจารณ์กันอย่างถึงพริกถึงขิง ส่วนผู้หญิงมักจับกลุ่มกันวิพากวิจารณ์เรื่องส่วนตัวของคนอื่น ที่จริงมันก็ไม่ผิดหรอกที่จะสนใจเรื่องอื่นๆ เพียงแต่ฉันคิดว่าอย่างไปจริงจังกับมันเกินไป เราก็ได้แต่พูด ได้แต่วิจารณ์ ได้แต่คิด สุดท้ายแล้วมันก็เท่านั้นจริงๆ เราก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรอก

ไม่รู้สิ เรื่องภายนอก ฉันให้ความสนใจพอควร แต่สุดท้ายก็ปล่อยวางหมด ฉันมองว่าทุกสิ่งในโลกนี้มันเหมือนสิ่งที่สมมติขึ้นมา ตัวตนที่แท้จริงมันไม่มี มีแต่ความเชื่อที่คนสร้างขึ้นมาเท่านั้น ดังนั้นอย่าไปยึดติดกับอะไรมากจนเกินไป

ความคิดของฉันอาจจะเหมือนหรือไม่เหมือนกับใครอีกหลายคน แต่ฉันก็ไม่ซีเรียสนะ เอาเป็นว่าการมองโลกแบบนี้ทำให้ฉันทุกข์น้อยลงละกัน แล้วฉันก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนด้วย

No comments: